นับเป็นเรื่องดีและเรื่องชวนอึดอัดใจได้ไม่น้อย เมื่อเราเกิดปิ๊งกับหนุ่มสักคนในออฟฟิศ ความใกล้ชิดทำให้เราสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น แต่ว่ายามที่เรางอนขุ่นเคืองกันอยู่ ยิ่งอยู่ใกล้กันเท่าไรยิ่งหงุดหงิดใจ จนบางครั้งอดคิดไม่ได้ว่าทำไมเราต้องอยู่ที่เดียวกันด้วย เวลาส่วนตัวที่จะเป็นตัวของตัวเองก็หาได้ยากลำบากเต็มที ถ้าหนุ่มคนนั้นเป็นบอส
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะมองว่าเรากำลังเดินทางลัดอยู่ ขอบอกว่าให้คุณแยกเรื่องงานและเรื่องความสัมพันธ์ไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมอบหมายงานที่จะต้องมีความสม่ำเสมอ เท่าเทียมกัน หรือแม้แต่การลงโทษกระทำผิด ต้องปฏิบัติอย่างไม่เลื่อมล้ำ เพราะทุกสายตาจับจ้องที่ตัวคุณอยู่นั่นเอง ตกลงกันไว้ว่าถ้าเรื่องส่วนตัวเราจะเก็บไว้คุยหลังเรื่องงาน และจะไม่เอามาประชดประชันกันระหว่างการทำงาน Good : แต่เราจะโชคดีตรงที่ได้คุยเรื่องงานลับๆ หรือการเรียนรู้เทคนิคหรือกลยุทธ์ต่างๆ ที่จะทำให้เราก้าวไกลเพิ่มประสบการณ์มากขึ้น เพราะหนุ่มที่เราปิ๊งนั้นเป็นบอสของเราเอง Bad : เวลาเราทำผิดคำสั่งแล้วบอสว่ากล่าว เราอาจจะงอนและงี่เง่า เพราะเรายังติดภาพความเป็นคนรักของเขาอยู่ โดยลืมมองไปว่าเขาต้องดูแลทุกๆ คนให้เท่าเทียมกับคุณ อาการน้อยใจของคุณจะเพิ่มขึ้นมากทีเดียว ถ้าหนุ่มคนนั้นเป็นเพื่อนในแผนก
ความรักมักมากับความใกล้ชิด เพราะยามทำงานด้วยกันมักมีความเห็นอกเห็นใจกัน มีไลฟ์สไตล์ กิจกรรม และเวลาเลิกงานที่เท่าๆ กัน ยิ่งพูดคุยมากขึ้นคุณก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น ถ้าคุณจะช่วยกันทำงานให้ผลงานของคุณทั้งคู่ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นตัวอย่างให้แก่เพื่อนๆ คนอื่น ควรคงความรักและการงานให้ดำเนินควบคู่กันไปได้ Good : พูดคุยเรื่องไหนก็รู้เรื่องต่อกันติด ยามที่เราเศร้าหรือไม่พอใจใครในที่ทำงาน เขาจะเป็นที่ปรึกษาและเข้าใจสภาวะที่เราเป็นอยู่ได้อย่างดีที่สุด พร้อมทั้งเป็นกำลังสำคัญช่วยเหลือเราได้ Bad : คุณจะขาดเวลาส่วนตัวไปโดยฉับพลัน เพราะไม่ว่าคุณจะกินข้าว กลับบ้าน หรือแม้แต่จับกลุ่มเม้าท์กับเพื่อน พ่อหนุ่มชวนฝันของคุณก็จะปรากฏกายเข้ามาทุกงานโดยปริยาย ที่สำคัญเขาอาจจะหึงคุณกับเพื่อนๆ คนอื่นจนออกนอกหน้าก็ได้ จนกลายเป็นทะเลาะกันเพราะอยู่ใกล้กันมากเกินไป คุณทั้งคู่จึงควรมีเพื่อนกลุ่มอื่นด้วย ไม่ใช่ไปไหนกันเพียงแค่สองคนตลอดเวลา อย่างนี้ทำให้โลกทัศน์แคบน่าดูเลย Beware : หนุ่มจอมรังควาน - เคยไหมที่เราเพิ่งเข้าทำงานใหม่ๆ และรู้สึกปิ๊งหนุ่มสักคนศึกษาดูใจแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ อยากจะกลายเป็นเพื่อนเหมือนเดิม แล้วหนุ่มคนนั้นก็กลายร่างเป็นคนน่ารำคาญ เอาเรื่องความลับที่คุยกันไปพูด ว่าร้ายให้เราเสียหาย หรือดักทำร้ายเราได้ ดังนั้น เมื่อเราเข้าไปในออฟฟิศใหม่ อย่าให้ความหวังกับหนุ่มๆ ไว้ เพราะในการทำงานเราควรจะมีประวัติดีติดตัวไว้ ดีกว่าจะมาเสียไปเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง หนุ่มรุ่มร่าม - เรื่องเลิฟซีนต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นการหอมแก้ม จับมือถือแขน บอกหนุ่มของคุณด้วยว่าที่ทำงานเป็นสถานที่ที่ไม่ควรจะทำอะไรโจ่งแจ้ง เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหากับคนอื่นๆ ด้วย รวมทั้งจดหมายรักที่เป็นเมลล์ของออฟฟิตหรือการเล่นป๊อบอัพ ทางที่ดีใช้อีเมลล์ส่วนตัวจะดีกว่า หนุ่มใจร้อน - ควรคุยกับเขาให้ชัดเจนว่าเรายังอยู่ในช่วงเป็นเพื่อนกันหรือดูๆ กันอยู่ เพราะไม่เช่นนั้นหนุ่มๆ อาจจะคิดไปเองว่าการที่คุณกลับบ้านกับเขาทุกวัน หรือกินข้าวกลางวันด้วย ตีความว่าเป็นแฟนกันแล้ว และเข้ามาทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ คุณเองจะลำบากเพราะเพื่อนๆ ผู้ชายในที่ทำงานคุณก็จะระมัดระวังตัวไม่กล้าคุยงานกับคุณด้วย
|